ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Powered By Blogger
5 กุมภาพันธ์ 2556

พะเนินทุ่ง

           เพื่อน : “ไปดูทะเลหมอกกัน"
           ผม : “ไม่ไป….ไกลขี้เกียจขับรถ”
           เพื่อน : “เฮ้ย! เพชรบุรีแค่นี้เอง ใกล้ๆ ขับรถไปเรื่อยๆ ชิวๆ กัน”
           ผม : “เพชรบุรี! (น้ำเสียง งงๆ) มันมีด้วยหรือว่ะ”
           เพื่อน : “งั้นมึงไปกับกู…กูพาไป”
               และแล้วเรื่องราวการเดินทางไปดูทะเลหมอกใกล้ๆ ที่เพชรบุรีก็เริ่มขึ้น……..


          เราออกจากกรุงเทพฯ ประมาณ 10:00 น. ไปถึงที่พักของเราคืนนี้คือที่ แคมป์บ้านกร่างใช้เวลาเดินทางไป ราว 5 ชั่วโมง (ก็อย่างที่บอก ชิวๆ) เนื่องจากแวะเที่ยวระหว่างทางนะครับ ทางขึ้นมาที่ บ้านกร่าง ต้องขับระวังหน่อยนะครับ เพราะว่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่รถเล็กไม่โหลดเตี้ย! ขึ้นได้สบายครับ รถเพื่อนผมทั้งเก่าทั้งแก่ 555+ มันยังไปได้
          “…คืนนี้เรากางเต๊นท์ ทำกับข้าว เฮฮาตามภาษากันไป…” เช้ารอออกเดินทางขึ้น พะเนินทุ่ง ราตรีสวัสดิ์ อากาศกำลังดีไม่หนาวมาก

          เช้านี้เราเตรียมตัวขึ้นพะเนินทุ่ง แต่แน่นอนไอ้รถเพื่อนผมมันขึ้นไม่ได้แน่นอน เจ้าหน้าที่ก็บอกว่ามีรถรับจ้างนะ เรียกได้เลยจากตรงนี้ 1,500 บาท ไม่ไปครับ โบกครับ! พวกเราโบกรถพี่ๆ ที่มาเที่ยวไปครับ แน่นอนคนไทยรักกัน ไปด้วยกัน  การเดินทางครั้งนี้เราเลยได้เพื่อนใหม่ พี่ใหม่ด้วย พวกพี่เขาน่ารักมากเป็นกันเอง พวกเราเลยได้เที่ยวกันอย่างสนุกสนาน แถมขากลับแล้วยังได้เจอพี่เขาที่เขือนแก่งกระจานอีก เราเลยได้สนุกกันต่อ และความสนิทสนม ความเป็นพี่น้องก็บังเกิด

      เขาพะเนินทุ่ง เปิดส่วนหนึ่งในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อยู่ห่างออกไปจากแก่งกระจาน ประมาณ 50 กม. เป็นภูเขาสูงประกอบด้วยทุ่งหญ้ากว้างสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,207 ม. ซึ่งบริเวณ โดยรอบจะเป็นป่าดงดิบมีสัตว์ป่านานาชนิดมากมายสภาพภูมิประเทศจะมีความสมบูรณ์และมีทิวทัศน์สวยงาม นอกจากนี้พะเนินทุ่งยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงาม ซื่งเป็นที่ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน

     เขาพะเนินทุ่งสามารถชม ทะเลหมอกได้เกือบตลอดปีในยามเช้าจะมองเห็นทะเลหมอกสีขาวปกคลุมทั่วหุบเขาเมื่อทะเลหมอก สลายตัวไป แล้วจะมองเห็นผืนป่าเบื้องล่างเบียดตัวกันแน่นท่ามกลางเทือกเขาสลับซับซ้อนกว้างไกลสุดตา และถ้านักท่องเที่ยวโชดดีอาจ พบ นกเงือกกรามช้างบินอยู่เหนือผืนป่าที่พะเนินทุ่งก็ได้

         

          ที่เขาพะเนินทุ่งมีอากาศหนาวเย็นตลอดปี นักท่องเที่ยวจะเห็นหมอกยามเช้าที่รวมตัวกันหนาแน่น ซึ่งจุดชมทะเลหมอกจะสามารถชมได้ 2 จุด คือ จุดชมวิวกิโลเมตรที่ 30 และ 36 ในช่วงเดือน พฤศจิกายนเป็นต้นไปทะเลหมอกจะสวยงามมาก อากาศเย็นสบาย
         


         

          ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม  ทางอุทยานจะปิดการท่องเที่ยวเพื่อความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวและ เพื่อให้เขาพะเนินทุ่งได้ฟื้นความสวยงานขึ้นมาอีกครั้ง…



          สำหรับการขึ้นไปบน เขาพะเนินทุ่ง จะถูกกำหนดเวลาขึ้นลงไว้ เนื่องจากทางขึ้นค่อนข้างแคบ ทางอุทยานจึงกำหนดเวลาไว้ดังนี้
          1.วันธรรมดาจะเปิดให้รถขึ้นและลงแบ่งออกเป็น3 รอบ
               - เวลาขึ้นรอบที่1 ตั้งแต่เวลา05.00-08.00 น. รอบที่2 เวลา 11.00-12.00 น. รอบที่ 3 ตั้งแต่เวลา15.00-16.00 น.
               - เวลาลงรอบที่1 ตั้งแต่เวลา 09.00 -10.00 น.รอบที่ 2 เวลา 13.00 -14.00 น.รอบที่ 3 ตั้งแต่เวลา17.00-18.00 น.
          2.ช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันเช่นช่วงปีใหม่กำหนดเวลาขึ้นลงไว้2 รอบ
               - เวลาขึ้นรอบที่ 1 ตั้งแต่เวลา่05.00-08.00 น. รอบที่ 2 ตั้งแต่เวลา13.00 -15.00 น.
               - เวลาลงรอบที่4 ตั้งแต่เวลา10.00-12.00 น. รอบที่ 2 ตั้งแต่เวลา17.00-18.00 น.

          สำหรับผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อขอใบอนุญาตผ่านทาง โดยเสีย
ค่าธรรมเนียม คือ
                       ผู้ใหญ่ 20 บาท
                       เด็ก 10 บาท
                       รถยนต์สี่ล้อ 30 บาท
                       รถกระบะ 40 บาท
                       รถตู้ 50 บาท
                       รถยนต์มากกว่าสี่ล้อ 70-80 บาท
          และผู้ที่ต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เวลา 05.00 น. ต้องทำใบขออนุญาต ล่วงหน้า 1 วัน
          ลาไปแล้วกับทริปนี้ครับ เจอกันใหม่ทริปหน้า เที่ยวเมืองไทยให้สนุกนะครับ….
          Baitoeidd (ใบเตย)

0 ความคิดเห็น: