ขับเคลื่อนโดย Blogger.
Powered By Blogger
25 เมษายน 2555

สีสันแห่งเขาค้อ


         อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เป็นพื้นที่มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แม้ในฤดูร้อนอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 18-25 องศาเซลเซียส ที่เขาค้อนี้มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่หลายที่ให้เราได้ไปเยี่อนกัน ไม่ว่าจะเป็น  อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ  พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก  หอสมุดนานาชาติเขาค้อ  พระตำหนักเขาค้อ 

           ทริปนี้ ผมกับเพื่อนๆ นัดเที่ยวกันช่วงปีใหม่ทีแรกว่าจะไปเที่ยวทางเหนือเพื่อดูทะเลหมอก แต่ด้วยหลายคนรวมถึงผมเองก็จำเป็นต้องแบ่งเวลาไปกับครอบครัวตัวเองด้วย เราจึงมีเวลาน้อยจึงตกลงกันว่าจะไปใกล้ๆ หน่อยแล้วก็มีทะเลหมอก ตกลงกันได้แล้วก็ไปเลย "...เขาค้อ..." กับทริป 2 วัน 1 คืน

          แน่นอน ไปเขาค้อต้องผ่านวิเชียรบุรี และที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็.. ไก่ย่าง ความรู้สึกลึกๆ (ส่วนตัว) ไก่ย่างวิเชียรที่นี่อร่อยแบบต้นตำรับจริงๆ ยืนยันได้จากสองร้านที่เราแวะกินกัน....


          เมื่ออิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางต่อ เราขับรถกันไปเรื่อยๆไม่รีบร้อนครับแวะชมบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ มาถึงที่พักก็ฟ้ามืดแล้วครับ...  ที่พักของเราก็คือไปรษณีย์เขาค้อ ที่เราเลือกที่นี่เพราะพวกเราถามคนในพื้นที่แล้วว่าเราจะได้เห็นทะเลหมอกแน่นอน... ฟันธง!!!! แต่พวกเราไม่เห็นครับเพราะลมแรงมากคืนที่พวกเรามา เจ้าหน้าที่ของไปรษณีย์บอกเราว่าอาจไม่ได้เห็นหมอกเพราะลมแรง และเตือนพวกเราว่าลมมันแรงให้เราเอารถบังลมไว้และยึดเต็นท์ให้แน่นๆ ก็จริงครับ...พวกเรานอนกันไม่ได้เลย ลมแรงมากและก็หนาว… มว๊าก..กก!!!


         สรุปวันนี้ กินลมชมวิวตลอดทางจนมาถึงที่พัก ^^!

          เช้าแล้ว...แต่พวกเราไม่เห็นหมอก ไม่เป็นไร...ใกล้แค่นี้วันหลังว่างมาใหม่ ที่แรกของวันนี้คือที่กินข้าว ลงจากไปรษณีย์เขาค้อเลี้ยวซ้ายก็เจอครับ ขออภัยผมจำชื่อร้านเข้าไม่ได้ แต่มีแก้วกาแฟใบใหญ่อยู่ข้างหน้าเลยครับ ที่บรรยากาศของร้านสวยดี...อาหารอร่อย แถมวิวก็ดี มีที่พักอีกต่องหากแต่เราไม่ได้ถามครับ


บรรยายกาศของร้านครับ..ที่เห็นเป็นด้านหลัง
ภายในร้านครับ...สวยดี ผมชอบจัง
        
   เสร็จแล้วเราก็ต้องไปไหว้พระขอพรกันก่อนครับที่
พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก

          บนยอดเขาใกล้ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ บ้านกองเนียม ต.เขาค้อ บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอันเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ซึ่งเจดีย์นี้คนเพชรบูรณ์ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ครบ 50 ปี

          ในเดือนธันวาคมของทุกปีจะมีการจัดงาน "วันนัดพบเอกอัครราชทูต ณ เขาค้อ" โดยเชิญเอกอัครราชทูตจากประเทศต่างๆมาร่วมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมของจังหวัด

   จาก  พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก พวกเราก็เดินทางมาต่อกันที่ วัดพระธาตุผาแก้ว หรือชื่อเดิม วัดผาซ่อนแก้ว          ตั้งอยู่บนเชิงหน้าผาของภูเขา ผาซ่อนแก้ว ที่วัดพระธาตุผาแก้วมีเจดีย์ที่ถูกออกแบบมาให้คล้ายดอกบัว และประดับตกแต่งด้วย เครื่องเซรามิก แก้ว กระจก กระเบื้อง และอื่นฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นของที่ถูกทิ้งแล้วบางแตกหักบางมาทำลวดลายให้สวยงามขึ้นมาได้ ซึ่งผมว่ามันต้องใช้ความพยายาม เวลาและศรัทธามากเลยถึงจะสามารถทำได้ขนาดนี้

         
          ที่วัดพระธาตุผาแก้วยังเป็นที่สำหรับปฏิบัติธรรม ที่ดีอีกทีหนึ่งเนื่องจากความสงบเงียบของที่นี่รวมถึงบรรยากาศโดยรอบของวัด ที่จะสร้างความสงบให้เกิดกับจิตใจของเราได้ ถ้าจะมาเที่ยวเอาบรรยากาศที่วัดพระธาตุผาแก้วควรจะมาในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะได้หมอกที่ลอยผ่านตัวเราราวกับอยู่บนสวรรค์เลยเชี่ยว พวกเราเดินถ่ายรูปกันอยู่ที่วัดพระธาตุผาแก้วกันอยู่นานมาก...จนไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ รู้แค่ว่าพวกเรายังถ่ายภาพที่นี่ไม่จุใจเลยแต่ก็ต้องเดินทางต่อครับ


          บทความนี้แค่นี้ก่อนครับ... บทความหน้ามาต่อกันที่ น้ำตกศรีดิษฐ์ และ ชมดอกทานตะวัน กันดีกว่าครับ ไปละ ขอให้เที่ยวกันให้สนุกและความสุขทุกท่านนะครับ

          การเดินทางไปเขาค้อ
               ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ไปสระบุรีเลี้ยวซ้ายเข้าทางเลี่ยงเมืองสระบุรี ผ่านลพบุรี บนทางหลวงหมายเลข 21 วิ่งผ่านตลอดเส้นทางจะผ่านอ.ชัยบาดาล อ.ศรีเทพ อ.วิเชียรบุรี อ. บึงสามพัน อ.เมือง มุ่งหน้า อ.หล่มสัก จนถึง สี่แยกพ่อขุนผาเมือง กม.261 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ทางหลวงหมายเลข 12 ไปทางจังหวัดพิษณุโลก ประมาณ 20 กม. จะถึงสามแยกแคมป์สน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 2196 ซึ่งจะผ่านแหล่งท่องเที่ยว และรีสอร์ตต่างๆบนเขาค้อตลอดเส้นทาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง

          ขอบคุณครับ

            ใบเตย

0 ความคิดเห็น: